ย้อนอดีตกับ “ทรงผม” สุดฮิตในแต่ละยุค

แนะนำร้านตัดผมที่ได้รับความนิยมและเทคนิคต่างๆ

ย้อนอดีตกับ “ทรงผม” สุดฮิตในแต่ละยุค

May 2, 2017 barber 0

ปัจจุบันแบบทรงผมมีให้เลือกกันมากมายทั้งแบบผมโซนเอเซียหรือแบบผมจากฝรั่ง แต่ถ้าหากถามถึงทรงผมของคนไทยตั้งแต่สมัยโบราณคงนึกกันแทบไม่ออกว่าหน้าตาเป็นอย่างไร และเรียกว่าทรงอะไร ฉะนั้นวันนี้เราจะพาไปย้อนอดีตดูทรงผมยอดฮิตในสมัยนั้นๆกันคะ

สมัยกรุงสุโขทัย

  • ทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะไว้ผมคล้ายกันคือ จะไว้ผมยาวแล้วเกล้าเป็นมวยมุ่นอยู่กลางศีรษะ ส่วนทรงของผู้หญิงจะเรียกว่า “โซงโขดง” คือผู้หญิงไว้มวยเกล้าขึ้นแล้วรวบไปเกล้าบนกระหม่อม รัดเกล้าเป็นห่วงยาวๆมีเกี้ยวหรือพวงมาลัยสวมอีกที

สมัยกรุงรีอยุธยา

  • ในสมัยนี้เริ่มมีการไว้ผมสั้นบ้าง ยาวบ้างเพราะเกิดศึกสงครามหลายครั้งจึงทำให้ทรงผมเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่พบการเกล้าผมอีกแล้วในยุคสมัยนี้

สมัยรัตนโกสินทร์

  • ในช่วงแรกยังนิยมไว้ผมทรงมหาดไทยกันอยู่เพราะยังคงมีศึกสงครามบ้างปะปราย ซึ่งผู้หญิงจะนิยมไว้จอนที่หูยาวลงมาแล้วนำไปทัดไว้ที่หู พอมาถึงในช่วงรัชกาลที่ 4 เริ่มมีการเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามา จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงทรงผมเป็น “ทรงผมปีก” คือโกนหรือตัดสั้นโดยรอบ ปล่อยให้ผมยาวระดับหนึ่งตอนบนและกลางศีรษะหวีเสยขึ้นจับด้วยน้ำมันตานี กันไรผมบริเวณรอบวงหน้าและไว้จอนยาวสองข้างใบหู
  • เมื่อเข้าสู่รัชกาลที่ 5 ได้ทรงเสด็จไปต่างประเทศหลายครั้ง จึงรับอิทธิพลจากทางตะวันตกเข้ามาโดยผู้หญิงจะไว้ผม “ทรงดอกกระทุ่ม” คือตัดทั้งศีรษะแล้วปล่อยให้ยาวชี้ขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อยาวพอดีแล้วค่อยหวีเสยขึ้นไปตรงๆแล้วตัดพอให้เข้าทรง

สมัยการปฎิวัติ 2475

  • รัฐบาลได้ออกมาขอให้ช่างตัดผมไม่ให้ตัดผมสั้นแก่ผู้หญิง ทำให้ผู้หญิงเริ่มนิยมดัดผมไฟฟ้าเป็นลอนมากบ้างน้อยบ้างและนิยมไว้ผมยาวขึ้น มีการดัดทั้งผมยาวสั้นแบบดาราตะวันตกมากขึ้น

พศ.2513

  • ยุคนี้ประเทศไทยรับทรงผมฮิปปี้ขึ้นตามแบบอเมริกามีทรงใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย เช่น “ทรงบ๊อบซิงเกิล” ดัดเป็นลอนหยิกฟูทั้งหัวหรือ “ทรงแอฟโร” “ทรงรากไทร” “ทรงทวิกกี” ผมเกล้าแบบต่างๆ

พ.ศ. 2540

  • เริ่มมีการดัดผมมากขึ้น แต่จะไม่เน้นความฟูหยิกทั้งหัวแต่ดัดแค่ช่วงปลายให้ดูมีชีวิต ชีวาขึ้นรวมทั้งมีการนำเทคนิครีบอนดิง มาใช้ยืดผมให้เรียบตรงดุจแพรไหม

 

ยุคปัจจุบัน

  • ประเทศเรารับอิทธิพลของญี่ปุ่น เกาหลี เข้ามาอย่างเสรี จึงทำให้แฟชั่นทรงผมของไทยมีการปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆไม่หยุดนิ่งตลอดเวลา ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ทำให้ช่างผมไทยต้องพยายามที่จะพัฒนาฝีมือให้ทันสมัยมากขึ้นเช่นกัน