หนังศีรษะลอกทํายังไง รู้ไว้ก่อนสายเกินไป

ผิวที่แห้งและเป็นขุยบนหนังศีรษะของเราอาจทำให้รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว โดยสะเก็ดเหล่านี้อาจเกิดจากรังแคหรือสะเก็ดเงินซึ่งเกิดจากสาเหตุที่ต่างกันมาก รังแค (Dandruff) สามารถรักษาได้ค่อนข้างง่ายและไม่ค่อยมีปัญหาทางการแพทย์ ส่วนโรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) เป็นอาการเรื้อรังที่ไม่มีการรักษาในปัจจุบัน เป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดความรำคาญกับเราเป็นอย่างมาก

รังแคเป็นอาการที่เกิดจากการมีสะเก็ดผิวหนังแห้งบนหนังศีรษะ สะเก็ดเหล่านี้มักร่วงหล่นจากเส้นผมและลงบนบ่าของคุณ การสระผมด้วยแชมพูบางตัวที่ออกฤทธิ์รุนแรง หรือใช้สารเคมีบางชนิดบนเส้นผม ในบางครั้งอาจทำให้หนังศีรษะของคุณระคายเคือง อีกทั้งยังทำให้เกิดสะเก็ดได้เช่นกัน อาการที่พบบ่อยมากที่เรียกว่าโรคต่อมไขมันอักเสบ (Seborrheic Dermatitis) เป็นสาเหตุของการเกิดรังแคจำนวนมาก ผิวหนังจะมีสีแดง ทิ้งสะเก็ดสีเหลืองไว้บนหนังศีรษะ เกล็ดเหล่านี้มักมีขนาดใหญ่กว่าสะเก็ดรังแคที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป

สำหรับโรคสะเก็ดเงินเป็นปัญหาที่ในระบบภูมิคุ้มกัน ถือว่าเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองชนิดหนึ่ง เกิดจากโปรตีนที่เรียกว่า “autoantibodies” เข้าใจผิดจนเข้าโจมตีเนื้อเยื่อปกติของร่างกาย การจู่โจมของโปรตีนเหล่านี้ไปเร่งกระบวนการผลิตเซลล์ผิวเร็วขึ้นอย่างมาก แต่เซลล์เหล่านี้เจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ มีลักษณะเป็นเป็นขุยบนร่างกายรวมถึงหนังศีรษะ ในขณะที่โดยปกติแล้วผิวที่ตายแล้วจะมีลักษณะเป็นชิ้นเล็กๆบางๆ ออกมาจากผิวชั้นนอกสุด

การป้องกันอาการหนังศีรษะลอก

หนังศีรษะลอกทํายังไง

รังแคสามารถป้องกันได้ การใช้แชมพูขจัดรังแคสระผมทุกวัน ซึ่งมักจะเพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้เกิดรังแคได้ในระดับหนึ่ง โดยทั่วไปแล้วการทำความสะอาดเส้นผมคำที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แนะนำเสมอมา น้ำมันและสิ่งสกปรกสามารถสะสมจนทำให้หนังศีรษะแห้งได้ นอกจากนี้การแปรงผมให้ห่างจากหนังศีรษะยังช่วยป้องกันไม่ให้น้ำมันสะสมบนหนังศีรษะอีกด้วย

แต่ถ้าคุณเป็นโรคสะเก็ดเงิน คงจะต้องบอกว่าในตอนนี้ยังไม่มีการรักษาโรคนี้เลย มันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุก แต่เป็นเรื่องธรรมดาที่มักจะเกิดขึ้นในเด็ก ซึ่งมักจะปรากฏขึ้นระหว่างอายุ 15 และ 35 แต่มันก็ยังพบเห็นได้ในทุกวัย อย่างไรก็ตามอาจลองรับการรักษาด้วยโลชั่น และยาสเตียรอยด์ สำหรับคนที่มีอาการรุนแรงมากจะมียาที่ชื่อว่า ยาแก้โรคไขข้อ (DMARDs) เป็นยารักษาที่จะมอบให้กับคนที่เป็นโรคสะเก็ดเงินปานกลางถึงรุนแรง อย่างไรก็หากต้องการคำตอบในการรักษาที่แน่นอน ขอแนะนำให้ไปปรึกษากับแพทย์เฉพาะทาง หรือ สถาบันโรคผิวหนัง ที่มักจะอยู่ตามโรงพยาบาลใหญ่ๆ หลายแห่ง